ชื่อความรู้
วิทยากร กับการสร้างเสน่ห์ในการถ่ายทอด
เจ้าของความรู้ นายณฐกรธรรม แสนเสน่ห์
ตำแหน่ง/สังกัด นักทรัพยากรบุคลปฏิบัติการ
ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนสระบุรี
แก้ปัญหาเกี่ยวกับ การลดความประหม่าสร้างความมั่นใจ
เสริมบุคลิกภาพ และการสร้างเสน่ห์ในการพูด
1.ส่วนนำ
เรื่องเล่า
การเป็นวิทยากรนั้นใครๆก็คิดว่าเป็นกันได้ แต่การเป็นวิทยากรที่ดีคงไม่ง่าย เพราะการทำหน้าที่วิทยากรมีความจำเป็นต้องอาศัย
การพูดหรือการสื่อสารเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี ก็จะทำหน้าที่วิทยากรได้ไม่ดี
หรือเปรียบไปแล้วการพูดก็เหมือนกับการว่ายน้ำ ถ้ามัวแต่อ่านหรือท่องตำราการว่ายน้ำโดยไม่ลงน้ำ
ก็คงจะเอาตัวไม่รอด ผู้ที่ศึกษาหลักการ ทฤษฏี วิชาว่ายน้ำเพียงแต่อ่านตำราก็คงจะจมน้ำตายเมื่อต้องลงสระน้ำ
ก็เหมือนกับการพูด ในการถ่ายทอด เพียงแต่ศึกษาทฤษฏีก็อาจตกม้าตายเมื่อขึ้นเวทีได้เช่นกัน
วิทยากร
คือผู้ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดความสำคัญ ให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความรู้ความ เข้าใจ
เกิดทักษะ เกิดทัศนะคติที่ดีเกี่ยวกับเรื่องที่จะอบรม
จนกระทั่งผู้เข้ารับการอบรมเกิดการเรียนรู้และ สามารถจุดประกายความคิด
เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือพฤติกรรมไปตามวัตถุประสงค์ของเรื่องที่เราถ่ายทอด
แต่การถ่ายทอดที่ทำให้ผู้ฟังไม่เบื่อนั้นก็ต้องมีการเตรียมตัว
มีการสร้างเสน่ห์โดยใช้เรื่องเล่า เรื่องตลก กลอนสนุกๆ
หรือยกตัวอย่างสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว โดยใช้เทคนิคสร้างอารมณ์ขัน
แต่ไม่ใช่วิทยากรขำเสียเอง มีการใช้น้ำเสียง สายตา ท่าทาง หรือสีหน้าให้สอดคล้องกับเรื่องที่พูด
และเราต้องมีข้อมูลของผู้ฟังเพื่อจะได้เตรียมเรื่องที่เหมาะสมกับผู้ฟัง
2.ส่วนขยาย
ขุมความรู้
การสร้างเสน่ห์
1.คนยิ้มเก่งมีเสน่ห์กว่าคนไม่ยิ้ม
ยิ้มเป็นเครื่องมือผูกมิตร เป็นกุญแจไขสู่บทสนทนาและความคิด
และนำไปสู่ความก้าวหน้า
2. ศึกษาข้อมูลแต่ละประเภทเนื้อหา
พยายามจับประเด็นและหักมุมเข้าเรื่องที่จะเสนอให้ได้
3.พูดดี
พูดเพราะ พูดเป็น วัตถุประสงค์แรกของการพูด
คือการตั้งใจหมายสื่อสาร ดังนั้นต้องพูดให้เป็น สื่อสารให้รู้เรื่อง
จึงจะถือว่าสัมฤทธิ์ผล แต่นั่นยังมิใช่เสน่ห์ เป็นแค่คุณสมบัติเบื้องต้นของคนพูดเป็นแต่เสน่ห์นั้น
ต้องพัฒนาไปถึงขั้น "คนพูดดี" ด้วย พูดดี หมายถึงพูดเป็นบวก และรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะพูด
มากหรือน้อยแค่ไหน พูดให้จับใจ ได้สาระ ได้ความคิดที่เฉียบคม
และมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม ได้ใจคนฟัง พูดด้วยท่าทางและถ้อยคำที่สุภาพ
ดึงดูดใจ เพลิดเพลิน และเกิดประโยชน์ คนที่พูดดี
พูดเพราะ พูดเป็น ยิ่งกว่ามีเสน่ห์เสียอีก เพราะสิ่งนี้คือความสามารถ
คือศิลปะที่เรียกว่า วาทศิลป์ จึงจะก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างเต็มภาคภูมิ
4.หมั่นฝึกใช้บ่อยๆ
ทดสอบลูกเล่นตนเองอยู่สม่ำเสมอ เช่น อาจจะเล่าให้คนอื่นฟังในกลุ่มเล็กๆ
3.ส่วนสรุป
แก่นความรู้
1.เนื้อเรื่องที่จะถ่ายทอด
ต้องแยกประเด็นให้ชัดเจน มีตัวอย่างประกอบหรืออาจแทรกด้วยอารมณ์ขัน
2.น้ำเสียง
ภาษา สายตา ท่าทาง ต้องสอดคล้องกับเนื้อเรื่องที่ถ่ายทอด
3.คุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการเป็นวิทยากร
คือ การใฝ่รู้ การเป็นนักสะสมข้อมูล มี อารมณ์ขัน
การเป็นนักเล่าให้เพื่อนและคนอื่นๆฟัง
ข้อเสนอแนะ/ข้อพึงระวัง
1.วิเคราะห์ผู้ฟัง ดูกาลเทศะ ให้เหมาสมกับสิ่งที่นำเสนอหรือพูดออกไป
2.ไม่พูดเรื่องศาสนา ความเชื่อ
หรือเรื่องส่วนตัว
3.เป็นตัวของตัวเองนำเสนอให้เป็นธรรมชาติ
4.อารมณ์ขันไม่ใช่แก่นการพูด
ควรวางเนื้อหาให้เหมาะสมและสอดแทรกอารมณ์ขันเพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้ฟังสามารถรับข้อมูลโดยไม่รู้สึกเบื่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น